ลุยเวียดนามด้วยตัวเอง ตอนเข้าเมือง ฮานอย
ทริปนี้หลังจากมีประสบการณ์ตรงจากการเดินทางไปเวียดนาม เมืองดานัง ครั้งแรกไปแล้ว ครั้งที่สองเราเลยเจาะไปเมืองฮานอยกันบ้าง โดยครั้งนี้ได้แพลนไปแบบโปรแกรมทัวร์กันเลยทีเดียว แต่ใช้วิธีแบ็คแพ็คไปเอง เพื่อประหยัดตังค์ของคนชอบเที่ยวแต่งบน้อย
วันที่ไปคือวันที่ 11/07/08
ในตอนนั้นเลทเงิน ที่เราคิดได้ คือ 1 US - 31.7 คิดเป็นเงินบาทไทย
และ 1 US- 16172 ดง เงินเวียดนาม
เราได้จองตั๋วกับแอร์เอเซียเช่น เคย เพราะบินตรงจากสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ไปลงที่เมือง ฮานอย ของประเทศ เวียดนาม ออกเดินทางตอนบ่าย เพื่อไปถึงฮานอยในตอนเย็น คราวนี้ไม่พลาด เราได้เพื่อนอยู่ทางเวียดนามได้ฝากให้เขาช่วยจองโรงแรมให้ โดยคืนแรกได้จองไปคืนละ 35-40 ดอลล่าห์
เมื่อเข้ามาถึงเมืองฮานอยออกจากสนาม บินเราได้ต่อรถแท็กซี่เข้าที่พักที่โรงแรมที่จองไว้ ซึ่งโรงแรมที่เราจองอยู่ใจกลางเมืองฮานอยพอดี คือย่าน Old Quarter แต่ระหว่างสนามบินกับการเดินทางไปใจกลางเมืองจัดว่าไกลเลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องศึกษาเรื่องเงินมาให้ดี และตกลงกับแท็กซีึ่่ให้ชัวร์ไม่งั้น อาจมีการโกงกันได้ ด้วยความที่เรามาถึงที่นี่ก็เย็นมากแล้ว จึงไม่อยากเสียเวลาหารถบัสเข้าจึง ได้จ้างรถแท็กซี่ไปแทน ราคาเท่าไร ตรงนี้จำไม่ได้เหมือนกัน
คนเวียดนามเก็บ 2 usd คนต่างชาติ เก็บ 4 usd แต่ปัจจุบันนี้ไม่รู้ขึ้นหรือยัง
เมื่อไปถึงวันนั้นเป็นคืนวันศุกร์ ถ้าจำไม่ผิด เราไปถึงโรงแรมที่จองไว้ และได้เดินออกไปหาอะไรทานใกล้ๆ ที่พัก ที่ย่านนี้มีเกสต์เฮ้า ที่พักเยอะมากสามารถเดินดูไ้ด้ มีหลายราคาให้เลือก
หลังอิ่มข้าว เราก็ไม่ได้ไปเดินเล่น เพราะที่นี่หลัง 3 ทุ่มไปแล้วร้านค้าต่างพากันปิด
วันที่ สองของเรา (12/07/08)
เช้านี้หลังจากตื่นนอน ก็ได้ออกไปหาอะไรหม่ำใกล้ๆ ที่พัก เพราะโรงแรมที่อยู่เป็นใจกลางเมือง มีร้านค้า ร้านกาแฟ ของขายเพียบ รับรองไม่มีอด หลังจากทานอะไรอิ่ม เราก็ไปจองทัวร์ไปฮาลองเบย์ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ซึ่ง ทัวร์เที่ยวฮาลองเบย์ คนละ 20 Usd
หลังจากจองทัวร์ไว้สำหรับเที่ยวในวันพรุ่งนี้แล้ว เราก็เดินทางเก็บตกย่านที่พัก โดยเดินไปเที่ยวที่ Ngoc Son Temple มีสะพานแดงเป็นวัดอยู่บนกลางทะเลสาป เปิด เวลา 07.30-18.00 ค่าเข้าชมคนละ 3000 ดง ก็ประมาณ 6 บาท
เดินเข้าไปข้างในวัด เหลือบไปเห็นผู้สูงอายุเล่นหมากรุกกัน น่าสนุกเลยแอบถ่ายนิดนึง บริเวณ โดยรอบทะเลสาปคืนดาบยังมีร้านขายรองเท้าเยอะมากๆ รวมไปถึงกระเป๋าที่ผลิตเอง ที่นี่นับว่าเป็นศูนย์กลางของรองเท้าและกระเป๋ากันเลยทีเดียว ใครอยากได้ของก็อปที่คุณภาพดีมากันได้ และยังมีร้านกาแฟที่ชาวต่างชาตินิยมมานั่งกินใกล้ๆ รอบๆ ทะเลสาป
ดูบรรยากาศเสียงรถ อาจจะดังเยอะไปนิดแต่ก็ได้วิถีชีวิตของคนที่นี่ ต่อจากนั้นเราก็ไปหาเฝอหม่ำ ซึ่งคนเวียดนามนิยมกินเฝอกันมาก มีร้านเยอะมาก เครื่องปรุงจะไม่ใช่เหมือนบ้านเรา จะเป็นเครื่องปรุงเหมือนน้ำส้มใส่ไปเลยทีเดียวไม่มีำน้ำตาล น้ำปลา พริก ให้เติม รสชาติไม่จัดจ้าน ผักเส้นเยอะ หลังจากที่หม่ำจนอิ่มแล้ว เราก็เตรียมไปดูโชว์หุ่นกระบอกที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ซึ่งไปไม่ไกลเดินไปได้อยู่ตรงที่เราอยู่ถ้าใครไม่ทราบถามเอาได้ ไม่ต้องจ้างรถ ซึ่งโชว์การแสดงหุ่นกระบอก ปกติค่าตั๋วเข้าไป 20,000 ดง VIP 40,000 ดง ก็ 80 บาท
วันที่ 3 ของการเที่ยว
วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะ ทัวร์เที่ยว ฮาลองเบย์ นัดแต่เช้า รถจะไปรับถึงที่หน้าโรงแรมที่เราพัก ทัวร์เอารถตู้มารับเราที่หน้าโรงแรม จากนั้นก็แวะไปรับแขกท่านอื่น ที่รถตู้ที่เราขึ้นมีเพื่อนทัวร์เป็นฝรั่งเพียบ ไมู่รู้ว่ามาจากชาติอะไรบ้าง รู้แต่ว่าซาวด์แทรคตลอดทาง เรานั่งและหลับไปได้เกือบ 2 ชั่วโมงก็มาถึงที่ฮาลองเบย์ ทริปนี้จะต้องมีการขึ้นเรือและรอล่องเรือออกไป จะเห็นหิน ภูเขา เล็กๆ ตลอดทางน้ำที่ล่องไป ตลอดทางจะเจอเรือลำอื่นๆ ที่บรรทุกนักท่องเที่ยวชมวิวสองข้างทาง และมีแม่ค้าขายผลไม้ให้นักท่องเที่ยวได้ชิมกันด้วย
บนเรือจะมีอาหาร บริการ เพราะคิดรวมไปหมดกับทริปเที่ยวนี้ และบรรยากาศโดยรอบเหมือนกุยหลินที่เมืองจีนมาก สวยทีเดียวภาพสองข้างทางสวยน้ำใส สีเขียวและตลอดข้างทางก็มีภูเขาบอกได้ทีเดียวว่าเป็นภาพที่งดงามมาก จากนั้นเรือก็ไปจอดที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ทางไกด์ได้ให้พวกเราเข้าไปชมในถ้ำบรรยากาศข้างในตกแต่งด้วยไฟสีสวย
หลัง จากเที่ยวถ้ำเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงเกือบเย็นต้องใช้เวลาในการเดินทางกลับอีก เมื่อไปถึงที่พักก็เย็นมากแล้ว เราจึงกลับไปอาบน้ำ และตอนค่ำก็ออกมาชมตลาดนัดกลางคืน ที่ตลาดนัดนี้จะมีของขายทุกวัน นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวเพื่อซื้อของกิน ของฝากตอนกลางคืน ตลาดนัดจะอยู่ใกล้ทะเลสาปคืนดาบ ก็ตรงที่เราไปวัดและดูหุ่นกระบอก ว่าง่ายๆ สามารถเดินไปได้ หรือใครอยากชมเมืองก็สามารถนั่งบริการรถสามล้อ เค้าก็มีให้บริการเพียบ
วันนี้เรากะนอนค้างอีกคืน หลังจากเหน็ดเหนื่่อยไปเที่ยวมาทั้งวัน เดินชมตลาดกลางคืนอีกนิด และตอนเช้ากะไปเก็บตกอีกหน่อย เพื่อหาซื้อกระเป๋ากับรองเท้า เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกระเป๋ารองเท้า ซึ่งมีให้เลือกเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ก่อนขอตัวลากลับ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจเดินทางไปฮานอย หวังว่ารายละเอียดตรงนี้จะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง
อยากไปจังครับ
ตอบลบ