ตำนานมหาวิทยาลัยกับเรื่องผีๆ วิทยาลัยสวีทเบีย (Sweet Briar College)



ในสถานศึกษานั้น ถือเป็นเรื่องพบได้ในทุกประเทศ และทุกที่ก็มักจะกลายเป็นตำนาน เรื่องเล่าสยองขวัญแบบปากต่อปาก เช่นเดียวกับที่ วิทยาลัยสวีทเบีย (Sweet Briar College) สถานศึกษาเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี

วิทยาลัยแห่งนี้เป็นวิทยาลัยสำหรับสตรีค่ะ มีแต่ผู้หญิงถึงมีสิทธิ์เข้ามาเรียนได้ ตั้งอยู่ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐอเมริกา เรื่องราวสุดหลอนของเดซี่ หรือ Daisy Williams ลูกสาวของผู้ก่อตั้งวิทยาลัย และได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

นักศึกษารายหนึ่งเล่าว่า เพื่อนสาวของเขาต้องการที่จะไปลองของด้วยความคึกคะนอง โดยไปล้อเลียนที่รูปปั้นของเดซี่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวิทยาลัยอย่างสนุกสนาน แต่แล้วผ่านไปครู่หนึ่งรถของเธอที่จอดอยู่ในเนินจอดรถ อยู่ๆ เบรคก็ไม่ทำงานทำให้รถพุ่งลงมาจากเนิน เด็กทั้งสี่คนพยายามช่วยกันวิ่งตามรถเพื่อที่จะหยุดมัน เปิดประตูและกระโดดขึ้นไปบนรถในขณะที่รถก็ยังคงเคลื่อนที่เองอย่างไม่รู้สาเหตุ โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร แต่วันรุ่งขึ้นเรื่องเล่าถึงความเฮี้ยนของผีสาวเดซี่ก็ได้แพร่กระจายไปทั่ววิทยาลัย

อีกหนึ่งเรื่องเป็นเรื่องเล่าของนักศึกษาสาวที่อาศัยอยู่ในหอพักในวิทยาลัย กำลังจะเอาตระกร้าผ้าไปซัก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกแปลกๆ จึงมองไปทางด้านขวาที่พุ่มไม้ก็พบว่าผ้าเช็ดตัวของเธอไปห้อยอยู่บนต้นไม้ได้อย่างไร? เพราะเธอเพิ่งจะซักผ้าเช็ดตัวผืนนี้ไปเอง อีกใจหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าผ้าเช็ดตัวที่ห้อยอยู่บนต้นไม้นั้นเป็นของเธอหรือไม่ จึงได้รีบกลับไปที่ห้องเพื่อค้นหาผ้าเช็ดตัว ปรากฎว่าผ้าเช็ดตัวของเธอได้หายไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าผ้าผืนนั้นต้องเป็นของเธอ เพื่อนๆ รูมเมทต่างก็พากันสันนิษฐานว่าต้องเป็นฝีมือของเดซี่อย่างแน่นอน เพราะผ้าถูกแขวนไว้ที่ระดับความสูงเกินกว่าเด็กสาวอย่างพวกเธอจะปีนขึ้นไปได้
     
อีกเรื่องคือ มีนักศึกษาคนหนึ่งเล่าว่าในคืนหนึ่งในขณะที่เธอและรูมเมทกำลังนอนหลับอยู่นั้น เธอต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงลมหายใจที่ดังมาก เธอจึงมองไปที่เพื่อนร่วมห้องเพราะคิดว่าเป็นเสียงลมหายใจของเพื่อนอย่างแน่นอน แต่ผิดเพราะเพื่อนของเธอยังคงนั่งอยู่ที่เตียงไม่ได้หลับหรือกรนแต่อย่างใด และเมื่อเธอทั้งคู่นอนเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง นักศึกษาสาวยังคงไม่หลับและได้ยินมันอย่างชัดเจน เป็นเสียงลมหายใจของมนุษย์ที่แรงมาก แต่ทิศทางของเสียงมาจากด้านบนเพดานหายใจลงมาที่พวกเธอ สักครู่นักศึกษาสาวก็ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องตะโกนถามขึ้นมาว่า “นั่นเสียงเธอใช่มั๊ย?” นักศึกษาสาวตอบเพื่อนไปว่า “ไม่ใช่” แล้วเสียงหายใจนั้นก็หายไป ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันจนถึงเช้า


ความคิดเห็น